‘การเรียนรู้’ คือ กระบวนการอันมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าทั้งมนุษย์หรือสัตว์ ทุกๆสายพันธ์เริ่มเรียนรู้ตั้งแต่เกิดจนตาย แต่สำหรับมนุษย์การเรียนรู้ช่วยพัฒนาให้เกิดความแตกต่างไปจากสัตว์โลกชนิดอื่น ๆ เพราะมันจะช่วยให้มนุษย์รู้จักดำเนินชีวิตอย่างเป็นสุข สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลต่อความสำเร็จและความพึงพอใจในชีวิตอีกด้วย
‘จิตวิทยาการเรียนรู้’ คือ จิตวิทยาใช้ในขั้นตอนถ่ายทอดความรู้ ซึ่งการเรียนรู้จะสามารถเกิดขึ้นได้ ก็ต้องมาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอันเกิดจากการฝึกฝน สำหรับกระบวนการเรียนรู้จะเกิดได้จาก 4 ขั้นตอน ได้แก่
· ตั้งใจจะรู้
· กำหนดวิธีเพื่อให้รู้
· ลงมือปฏิบัติ
· ได้รับผล
สำหรับทฤษฎีการเรียนรู้ คือ การศึกษาว่ากระบวนการเรียนรู้มีลักษณะอย่างไร ซึ่งงานวิจัยส่วนใหญ่ จะศึกษา 3 แบบ ได้แก่
· พฤติกรรมนิยม
· พุทธินิยม
· self-regulated learning
การเรียนรู้ ก็คือ วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นผลลากยาวมาจากประสบการณ์ที่มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม เป็นวิธีปรับเปลี่ยนปริมาณความรู้ของผู้เรียน เพราะฉะนั้นงานชิ้นสำคัญของผู้ที่ขึ้นชื่อว่า ‘ครู’ ก็คือหารช่วยนักเรียนแต่ละคนให้เกิดเรียนรู้ ตลอดจนเพิ่มพูนทักษะตามที่หลักสูตรได้กำหนดไว้ ครูมีหน้าที่จัดเนื้อหาในห้องเรียน เพื่อทำให้นักเรียนเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามวัตถุประสงค์ของการศึกษา โดยต้องเป็นไปอย่างมีแบบแผนและขั้นตอน
ทั้งนี้นักจิตวิทยาได้ค้นคว้าวิจัยอย่างลึก เกี่ยวกับการเรียนรู้ของทั้งสัตว์และมนุษย์ จนกระทั่งค้นพบวิธีสำคัญที่นำมาประยุกต์ เพื่อส่งเสริมวิธีเรียนรู้ในโรงเรียนได้ สำหรับทฤษฎีการเรียนรู้ แบ่งออกเป็นหลายทฤษฎี หากแต่ในที่นี้จะขอนำมากล่าวเพียง 3 ทฤษฎีเท่านั้น ได้แก่
· ทฤษฎีเรียนรู้พฤติกรรมนิยม
· ทฤษฎีเรียนรู้พุทธิปัญญานิยม
· ทฤษฎีเรียนรู้ทางสังคมเชิงพุทธิปัญญา
ทฤษฎีการเรียนรู้พฤติกรรมนิยม
คือ ความคิดขั้นพื้นฐานของทฤษฎีการเรียนรู้พฤติกรรมนิยม โดยมีแนวคิดว่าพฤติกรรมทุกอย่าง ล้วนเกิดขึ้นจากการเรียนรู้และสามารถสังเกตได้ โดยพฤติกรรมแต่ละชนิด ล้วนเป็นผลลัพธ์ของการเรียนอันเป็นอิสระหลายสิ่งอัน ยิ่งบวกเข้ากับแรงเสริมก็จะยิ่งเป็นเครื่องกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมต่างๆขึ้นได้นั่นเอง
นักจิตวิทยาได้แบ่ง ‘พฤติกรรม’ แสดงออกของมนุษย์เป็น 2 ประเภท ได้แก่…
Respondent Behavior
คือ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นอันได้รับผลกระทบมาจากสิ่งเร้า เมื่อมีสิ่งเร้าก็จะทำให้พฤติกรรมตอบสนองตามมา โดยสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า สำหรับทฤษฎีที่นำมาอธิบาย ได้แก่ ทฤษฎีการเรียนรู้แบบวางเงื่อนไขสไตล์คลาสสิก หรือ Classical Conditioning Theory
Operant Behavior
เป็นพฤติกรรมที่มนุษย์หรือสัตว์แสดงเพื่อตอบสนองออกมา โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งเร้าแน่นอน อีกทั้งพฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับทฤษฎีการเรียนรู้ที่ใช้อธิบายพฤติกรรมข้อนี้ เรียกว่า ทฤษฎีการเรียนรู้วางเงื่อนไขแบบกระทำ หรือ Operant Conditioning Theory โดยทฤษฎีนี้มุ่งเน้นว่าต้องให้ Operant Behavior อยู่ตลอดชีวิต betflik เครดิตฟรี
วิธีนำหลักการมาประยุกต์ใช้
· เสริมแรงดันและลงโทษ
· ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และ ตบแต่งพฤติกรรม
· สร้างบทเรียนสำเร็จรูปเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน
ส่งเสริมเรียนรู้นอกห้องเรียน